ฟ้าสีเลือด ล่าสุด

ฟ้าสีเลือด ล่าสุด

ฟ้าสีเลือด ล่าสุด

ฟ้าสีเลือด ล่าสุด หนังเรื่องนี้เข้าฉายออนไลน์ในวันเดียวกันกับตอนพิเศษของ ผีดิบคลุ้มคลั่ง บัลลังก์เดือด แต่ว่าพึ่งถึงเวลามาเปิดดู เลยเพิ่งได้มานั่งเขียนรีวิวให้ทุกท่านได้อ่านกัน หนังจากฝั่งเยอรมันที่พล็อตแล้วก็โปรดักชันค่อนข้างจะใหญ่พอสมควร Blood Red Sky ชื่อไทย ฟ้าสีเลือด ผลงานการควบคุมของ Peter Thorwarth หนังเรื่องมีความยาวประมาณ ดูหนัง ฟ้าสีเลือด เป็นทั้งหนังแอคชัน สยดสยองรวมทั้งตื่นเต้น ที่เล่าเรื่องของการการร้ายจี๋เครื่องบินเพื่อคุณประโยชน์ใดสักอย่าง ก่อนจะเผชิญกับสิ่งไม่คาดคิดเมื่อมีแวมไพร์เพศหญิงเผยตัว และก็แปลงเป็นเหตุสยองในอากาศในเที่ยวบินที่กำลังมุ่งหน้าไปนิวยอร์ก

นี่มันพล็อตโคตรไม่ธรรมดาเลย สำหรับ White God

หนังมีใจความสำคัญตั้งต้นที่แปลกใหม่และน่าสนใจ เป็นการสื่อถึงระบบชนชั้นวรรณะในสังคม ความไม่เสมอภาค การมีสิทธิพิเศษเหนือกว่า และก็การเหยียดสีผิว โดยใช้หมาเป็นตัวแทนในการเล่าเรื่อง ที่ถูกกระทำอย่างชั่วร้ายแล้วก็ขาดความกรุณาปรานี จากคนที่ถือตนว่าเป็นผู้มีความ civilized หรือเจริญกว่า สะท้อนสังคมในปัจจุบันที่พากเพียรทุกทางเพื่อจะให้ผู้ที่ต่างจากตนเองนั้นอยู่ยากมากยิ่งขึ้น

คำว่า “White God” จึงสื่อถึงคำเสียดสีรวมทั้งการตั้งปัญหาว่า เพราะเหตุว่าพระเจ้าตัวขาวใช่ไหม ? ชาวผิวสีก็เลยโดนข่มขี่จากคนขาวมาตลอด รวมทั้งอาจรวมถึงเหล่าคนชายขอบ ผู้หนีภัย หรือคนกลุ่มน้อยด้วย

ด้านการเล่าเรื่อง มีจังหวะการเดินเรื่องที่ดี ดูง่ายไม่สลับซับซ้อน มีความเป็นหนังคัลท์ที่คุณภาพอัดแน่นมากมายๆจัดอยู่ในเรท 18+ เพราะเหตุว่าช่วงท้ายๆนี่ เนื้อปลิ้น เลือดสาด กันอย่างยิ่งจริงๆ แล้วก็ หนังมีฉากรังควานน้องหมาด้วย ใครเซนสิคราวฟ คงจะต้องทำใจก่อนดูนิดนึง
โดยรวมแล้ว White God

สี่ขาล่าปิดเมือง เป็นหนังคัลท์คุณภาพ ทั้งยังการดำเนินเรื่อง โทนภาพรวมทั้งซาวด์ประกอบที่เป็นเพลงคลาสสิค ดูทรงพลังมากมาย ที่ห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดจะต้องชื่นชมคือ ฟ้าสีเลือด ล่าสุด ผู้แสดงอย่างน้องหมา ฮาเก้น ที่แสดงได้โคตรดีแล้วก็หล่อโก้มว๊ากกกก จนน้องได้รางวัล Palm Dog Award !! แล้วก็ที่สำคัญ หนังสื่อใจความสำคัญหนักๆไว้กับเรื่องราวระหว่างคนกับหมาจรได้อย่างพอดี ซึ่งหนังจัดอยู่ในเรท 18+ สำหรับคนรักสุนัขรวมทั้งคนรักหนังน้ำดี… บอกได้เลย เรื่องนี้น่าดูสุดๆ

ถ้าหากถามผมก่อนไปดูหัวข้อนี้ว่า Helen Reddy คือผู้ใด? ผมก็คงตอบไปว่า “ไม่ทราบ” คุ้นชื่อไหม “ก็คงจะไม่อีกนั่นแหละ” เคยฟังเพลงของคุณมาก่อนหรือไม่ “ไม่เคยเลยสักครั้ง” ซึ่งพวกเราไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนเลย เรารู้เพียงแต่ว่าหนัง I Am Woman ก็จะพาพวกเราไปรู้จักคุณคนนี้นี่แหละ อย่างที่ได้กล่าวไป I Am Woman เป็นหนังที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตของนักร้องโด่งดังที่สมัย 70s – Helen Reddy

หนังบอกเรื่องราวที่คุณจะต้องเผชิญพบเจอมา

บางทีอาจจะไม่ใช่เริ่มต้นตั้งแต่เธอยังเด็กว่าเพราะอะไรคุณถึงขับร้องเพราะว่า แต่ว่าหนังเล่าตั้งแต่คุณได้เดินทางเข้ามายัง New York พร้อมกับลูกของเธอ มากับความฝันอยากเป็นนักร้อง แต่ว่าไม่มีค่ายจะเอาสตรีไปขับร้อง ด้วยเหตุว่าในยุคนั้นมันช่างยากอย่างยิ่งท่ามกลางสังคมความไม่เท่าเที่ยมกันระหว่างชาย-หญิง นั่นจึงทำให้คุณต้องกัดฟันสู้แล้วก็อยู่ด้วยความฝัน

นั่นเป็นสิ่งที่หนังหัวข้อนี้ได้เล่า ได้พาพวกเราไปรู้จักตัวของคุณ พร้อมๆสลับกับเพลงอันโคตรเพราะของคุณ สิ่งที่ชอบมากๆเป็น เวลามีหนังประวัติส่วนตัวนักร้องหรือนักดนตรี พวกเราชอบไม่ค่อยได้เห็นฉากร้องเพลงยาวๆหรือได้ยินเพลงเต็มๆมากแค่ไหนนัก

แต่ประเด็นนี้จัดเต็มมากมาย เนื่องจากตลอดเกือบ 2 ชั่วโมง พวกเราจะได้ยินเพลงของ Helen Reddy หลายเพลงมาก และไม่ใช่มานิดๆมาแบบเต็มๆเพลง 3-4 เพลงเลยทีเดียว รวมทั้งที่สำคัญเพลง I Am Woman นี่โคตรเพราะเหตุว่าจนกระทั่งไม่เคยทราบจะนำเสนอยังไง

นอกเหนือจากเส้นทางการเป็นนักแสดงของเธอท่ามกลางสังคมความไม่ทัดเทียม หนังยังเล่าเหตุว่าตัวเธอได้เกี่ยวเรียกร้องช่วยเหลือความทัดเทียมโดยบอกผ่านเพลง I Am Woman ของคุณนี่แหละ ฟ้าสีเลือด ล่าสุด ซึ่งเพลงนี้คุณก็ได้แต่งออกมาเพื่อความเท่าเทียมทางเพศด้วย เสียงของคุณเปรียบตัวแทนของสตรีทั่วทั้งโลก

ยิ่งฉากการร้องเพลงตอนสุดท้ายในงานต่อต้านของผู้ชุมนุมเรียกร้องความเท่าเทียมกันที่ Washington D.C. ในปี 1989 ทำออกมาได้โคตรดี ขนลุกเลย โอเคมากจริงๆประทับใจ และก็ทรงอำนาจแบบสุดๆซึ่งเพลง I Am Woman ก็ได้กลายมาเป็นเพลงสำคัญสำหรับเหล่าผู้เรียกร้องความเสมอภาคของเพศอย่างไม่เป็นทางการ

หนังใช้มูดแอนโทนได้หลักแหลมจริงๆมากมาย

ตั้งแต่หนังเปิดเรื่องที่ Helen Reddy เดินทางเข้ามายัง New York เราจะมองเห็นได้เลยว่าโทนภาพจะเป็นสีน้ำเงินโทนเย็น เว้นเสียแต่ตัวคุณที่ใส่สีน้ำตาลออกส้มไป ซึ่งทำให้เห็นว่าเธอคือคนแปลกแยกในสังคมแห่งนี้ และถ้าเกิดพินิจไปตลอดทั้งเรื่องจะมีบางที่ที่ตัวเธอจะใส่เสื้อผ้าและก็กลมกลืนกับฉากเหล่านั้น โน่นเป็นสถานที่ที่เหมาะกับเธอ

ทางด้านนักแสดงถือว่าสอบผ่านแบบสุดๆทั้งยัง Tilda Cobham-Hervey ที่มาสวมบทบาท Helen Reddy ที่เล่นได้มีเสน่ห์ สง่า เอาอยู่ในทุกฉากไม่ว่าจะแฮปปี้ ฉากน่ารักน่าเอ็นดูๆฉากดราม่า หรือฉากการแสดงอันทรงพลังเธอก็สามารถเอาอยู่จริงๆแต่ที่น่าตกใจแล้วก็เซอร์ไพรส์มากมาย เป็นการแสดงของ Evan Peters

นักแสดงจากซีรีส์ AHS แล้วก็ผู้รับบท Quicksilver ในจักรวาล X-Men มารับบทเป็น Jeff Wald ผู้จัดการส่วนตัวและก็สามีของ Helen Reddy เขาระเบิดฟอร์มการแสดงออกมาอย่างสุดยอด เข้าถึงอารมณ์ในแต่ละซีนแบบสุดๆฉากระเบิดอารมณ์นี่ดูจริงรวมทั้งมองสุดยอดมาก ทั้งคู่คนแสดงได้อย่างไร้ที่ตำหนิจริงๆ

ถ้าหากจะมีจุดบกพร่องก็อาจจะมีแค่เรื่องราวบางอย่างผ่านไปรวดเร็วทันใจ ความลำบาก การพยายามเป็นศิลปินของ Helen Reddy มันคงจะมีอะไรมากกว่านี้ กว่าการที่เธอจะได้ยืนบนเวทีโดยเป็นตัวของตัวเองได้ หรือความสำเร็จในการเป็นนักแสดงคงจะมีอะไรให้เรามองเห็นความยอดเยี่ยมของเธอได้มากกว่านี้

สรุปแล้ว I Am Woman

เป็นหนังประวัติบุคคลของ Helen Reddy ที่บอกได้สนุก ไม่มีจุดเชิญชวนระอาเลยแม้แต่น้อย เราจะได้มองเห็นเส้นทางการเป็นนักแสดงของคุณว่ากว่าจะไปยืนในจุดนั้นได้คุณต้องพบอะไรมาบ้าง ท่ามกลางสังคมความไม่ทัดเทียมทางเพศ และที่สำคัญการได้ไปฟังเพลงของคุณแบบเต็มๆในหลายๆเพลงของหนังเรื่องนี้ ก็คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพลง I Am Woman เนื่องจากว่ามันทั้งเพราะโคตร แล้วก็ทรงประสิทธิภาพแบบสุดๆ ปล. น้องที่เล่นเป็นลูกของ Helen Reddy ตอนเด็ก โคตรน่ารักกกกก

The Huntsman: Winter’s War นายพรานป่าและก็ราชินีน้ำแข็ง หรือจะพูดได้ว่าเป็นหนังที่เป็นภาคต้นของ “Snow White and the Huntsman” ที่เข้าฉายไปเมื่อปี 2012 ครับผมสำหรับหนังหัวข้อนี้ ฟ้าสีเลือด ล่าสุด จะเล่าถึงจุดเริ่มต้นการเป็นนายพรานป่าสุดหล่อของพวกเราที่แสดงนำโดย คริส เฮมสวอร์ธ เกาะติดคู่กับ

นายพรานป่าสาวอปิ้ง เจสสิกา แชสเทน ขอรับโดยในภาคนี้นั้นได้มีการสลับตัวผู้กำกับครับ โดยจะใช้ เซดริก นิโคลัส-โทรกระทั่งถึง ที่เคยเป็นผู้กำกับผู้ที่สอง ของ Snow White and the Huntsman มารับหน้าที่กำกับแทนผู้กำกับคนก่อนหน้า แล้วยังเป็นการควบคุมภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาอีกด้วยหนังกล่าวถึงรายละเอียดของการเช็ดกหักหลังโดยคู่รักแล้วก็การสูญเสียลูกสาววัยแบเบาะราชินีน้ำแข็ง Freya (เอมิลี บลันต์ จาก Sicario, Edge of Tomorrow, Into the Woods)

ก็เลยแยกตัวจาก Queen Ravenna (ชาร์ลีซ เทรัน จาก Mad Max: Fury Road, Snow White and the Huntsman) ผู้ซึ่งเป็นพี่สาว เพื่อไปสร้างอาณาจักรของตนเองในดินแดนทางด้านเหนือ พร้อมสร้างกองทัพนายพรานขึ้นมา ที่นำกลุ่มโดย Eric (คริส เฮมสวอร์ธ จาก Thor, The Avengers) กับ Sara (เจสสิกา แชสเทน จาก Zero Dark Thirty, The Help, The Martian) แม้กระนั้นทั้งคู่ได้ทำผิดกฏเหล็กของอาณาจักรซึ่งก็คือ ห้ามทุกคนมีความรัก เขาทั้งสองคนจึงโดน Freya ลงอาญา

กลับสู่หน้าหลัก https://cheers-ginza.com/